ทำไมเด็กยุคนี้ต้องมีCriticalThinking

Please enter a valid URL
ในโลกที่ท่วมท้นไปด้วยข้อมูลมหาศาล สิ่งที่สำคัญกว่าความรู้ คือความสามารถในการเลือกที่จะเสพความรู้และวิเคราะห์ข้อมูลได้ดี ซึ่งจะทำให้เขา “ตีความ” สิ่งต่างๆ ได้แม่นยำขึ้น และนั่นนำไปสู่ Mindset ที่ถูกต้องด้วย
เราต้องการเด็กรุ่นใหม่ที่กล้าคิด กล้าถามในสิ่งที่เขาสงสัยมากกว่าการกดมันไว้ในใจและดูเหมือนเชื่อฟังทุกอย่าง
ลูกไม่ควรเชื่อทุกอย่างที่อ่านในโลกที่เต็มไปด้วย “ความคิดเห็น” มากกว่า “ข้อเท็จจริง”
.
การศึกษาที่ดีคือ การสอนให้เด็กคิดเป็นและมีแรงบันดาลใจในการต่อยอดความรู้ด้วยตัวเอง (Self Education) ลองคิดดูว่าถ้าเราสามารถสร้างเด็กไทยที่มีคุณลักษณะเช่นนี้ได้มากๆ ประเทศจะพัฒนาไปอีกเพียงใด
.
เด็กยุคนี้มีธรรมชาติที่ต้องการความรวดเร็วอยู่แล้ว ด้วยสิ่งแวดล้อมของโลกที่เปลี่ยนไป เราในฐานะพ่อแม่จะทำอย่างไรให้เขาสามารถคิดวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้พบเจออย่างถูกต้อง มีทักษะการตีความที่ลึกซึ้ง ไม่จับประเด็นแค่หัวเรื่องแล้วตีความเหมารวม ซึ่งจะทำให้ mislead และเกิด perception ผิดๆ
.
จริงๆ แล้ว แม่ติ๊ดเชื่อว่าในยุคนี้การจะได้ปริญญาหรือไม่อาจไม่ได้เป็นสิ่งที่สำคัญเท่าสมัยพ่อแม่ แต่หมายความว่าถ้าลูกไม่มีปริญญา ลูกต้องมีผลงานบางอย่างที่โดดเด่นพอ ไม่ใช่ปริญญาก็ไม่เอา ผลงานก็ไม่มี แบบนี้ยุคไหนก็ไม่รุ่งค่ะ
.
ลองอ่านบทความนี้ดูนะคะ สิ่งที่ Steve Jobs, Mark Zuckerberg หรือ Bill Gates อาจไม่ได้บอกลูกคุณ
4 ความจริงที่คนเรียนไม่จบมหา’ลัย ไม่กลับมาเล่าให้คุณฟัง !
.
ผมนั่งอยู่ Starbucks และ “Steve Jobs กับ Bill Gates ก็เรียนไม่จบ !” คือบทสนทนาที่ต้องได้ยินในร้านนี้เสมอ, จนผมสงสัยว่าพวกเขาเชื่อจริงๆ รึว่า “ที่ Gates และ Jobs ประสบความสำเร็จเป็นเพราะสองคนนี้เรียนไม่จบ”
แน่นอนว่าผมไม่เคยปกปิดเรื่องที่ตัวเองลาออกจากมหา’ลัย [และเรื่องที่ผม “เกิดมายากจน“]
แต่ในชีวิตนี้, ผมไม่เคยแนะนำให้ใครเลิกเรียน
ตรงกันข้าม, ผมเคยจ่ายค่าเทอมให้เด็กที่ไม่มีเงินเรียนแบบไม่หวังอะไรมา 2 คนแล้วและบริจาคให้ “เด็กยากไร้” มาตลอด
ในฐานะที่เรียนไม่จบมหา’ลัย, ผมมี 4 ข้อที่อยากฝากไว้ จากประสบการณ์ตรง…
1. Jobs & Gates ไม่ได้รวยเพราะเรียนไม่จบ
บางคนคิดแบบนั้นจริงๆ
หรือไม่ก็ถูกหลอกให้เชื่อด้วยการใช้ Logic ที่ผิด
ทุกคนรู้ว่า “Bill Gates ก็เรียนไม่จบ”
แต่ไม่ค่อยทราบกันหรอกครับว่า “Gates สอบติด Harvard ด้วยตัวเองและ Gates ก็สอบผ่านปี 1 ด้วยเกรดสูงมากโดยที่ไม่ได้เข้า Class เลย, ก่อนจะเริ่มสร้าง Computer ในโรงรถและก่อตั้งก้าวแรกของ Microsoft ตอนเรียนอยู่ปี 2″
ในสายตาผม, Bill Gates เก่งในระดับที่ “เรียนจบแล้วตั้งแต่เข้ามหา’ลัย”
จะได้ใบปริญญาหรือไม่, มันเป็นเรื่องเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับความเก่งของ 2 คนนี้
.
2. ผมเคยถูกปฏิเสธงานเพราะไม่มีวุฒิ / ใบปริญญา
หลายปีก่อน, มีผู้ใหญ่ในบริษัทฝรั่งระดับ Top 5 ของไทยเคยชวนผมไปสมัครงานโดยที่เขาไม่ทราบว่าผมเรียนไม่จบ
ก็ส่ง Resume ไป แต่ถูกคัดทิ้งในรอบสุดท้ายด้วย 2 เหตุผล
คือแผนก HR เกรงว่า “คนที่ไม่มีวุฒิกระทั่งปริญญาตรีจะคุมงานเด็กที่จบโทไม่ได้”
และอีกเหตุผลหนึ่งซึ่งผมชอบมากกว่าข้อแรกเสียอีก [ทั้งที่มันทำให้ไม่ได้งานนั้นก็ตามที] คือ “คุณอาจเป็นคนเก่งก็จริง แต่ทุกคนที่มาสมัครงานกับบริษัทเราก็เก่งเท่าๆ กับคุณ โดยที่มีพวกเขาใบปริญญาติดมาแต่ว่าคุณไม่มี !”
มาทราบทีหลังว่าการมีใบปริญญามันสะดวกทั้งเวลาปรับเลื่อนตำแหน่ง & ขึ้นเงินเดือน
และคนที่จะรับผมเข้าทำงานโดยไม่มีวุฒิก็ต้องรับความเสี่ยง, ต่อการถูกระดับบริหารถามว่า “ทำไมถึงเลือกคนนี้ ?”
.
3. และผมก็เคยคัดคนมาสัมภาษณ์, แน่นอนว่าผมดูใบปริญญาก่อน
มีอยู่ทีที่ผมไปช่วย Consult ด้าน Online Marketing ให้ ฺBrand ใหญ่ชั่วคราวและสุดท้ายก็ต้องหาใครสักคนมาทำงานแทนในฐานะพนักงานประจำ, จึงต้องช่วยทางบริษัทนั้นคัด Resume มาไล่อ่านเพื่อเรียกคนมาสัมภาษณ์…
บอกเลยว่าผมดูทั้งชื่อมหา’ลัย / คณะ / เกรด / กิจกรรมที่ทำสมัยเรียน
เหตุผลก็เหมือนข้อ 2
เกรดในมหา’ลัยอาจบอกได้ว่าคุณชอบเรียนวิชาอะไร, ทำไมถึงเข้าคณะนี้และคุณมีความรับผิดชอบแค่ไหน ?
คนที่ไม่มีใบปริญญาก็อาจจะถูกเรียกมาสัมภาษณ์ได้, แต่ต้อง “เหนือกว่าผู้สมัครทุกคน” แบบขาดลอยจริงๆ
ซึ่ง Gates & Jobs ทำได้, ปัญหาคือแล้วคุณทำได้รึเปล่า ?
.
4. ความขี้เกียจเป็นอภิสิทธิ์ของ Genius
ทุกวันนี้ผมไม่ค่อยเข้าร้านหนังสือไทย เพราะในนั้นมันเต็มไปด้วย “How To รวยด้วยหุ้นใน 30 นาที” หรือไม่ก็ “นอนทั้งวันก็ยังรวยด้วย Passive Income” ซึ่งก็มั่นใจได้ว่า 8 ใน 10 เล่มจะต้องเริ่มต้นคำนำด้วยประโยคที่ว่า…
“รู้รึไม่, Steve Jobs กับ Bill Gates ก็เรียนไม่จบ !”
ย้อนกลับไปอ่าน Paragraph แรกใหม่อีกครั้ง…
เดี๋ยวนี้ผมเจอเยอะมาก, เด็กยุคใหม่ที่ “โง่” ไม่พอแต่ยังเลือกที่จะ “ขี้เกียจ” เพิ่มเข้าไป
ด้วยข้ออ้างว่า “คุณรู้ไหม, Steve Jobs กับ Bill Gates ก็เรียนไม่จบ”
โลกไม่เคยบอกหรอกครับว่าในบรรดาคนที่ลาออกจากมหา’ลัย 10 ล้านคนมีชีวิตอย่างไรกันบ้าง
โลกรู้จักก็แค่ 2 ใน 10000000 คนที่ประสบความสำเร็จ, นั่นคือ “Jobs & Gates” และ [เลือกที่จะ] ลืมว่ามีอีก 9999998 คนนอนอยู่ข้างถนนโดยไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้จะมีข้าวกินรึไม่ / พ่อแม่จะอยู่อย่างไรหรือมีชีวิตที่ถูกเหยียดหยามขนาดไหน ?
แค่ 9999998 คนที่ว่า, ไม่ได้กลับมาเล่าให้คุณฟังและมันก็เท่านั้นเอง
.
ด้วยรักและปรารถนาดี ❤ ❤
 
Cr. ขอบคุณบทความจาก CookieCoffee
http://www.cookiecoffee.com/
Cr. ขอบคุณบทความจาก https://www.facebook.com/YouAreAwesomeKids/
[seed_social]
  • Add a comment

    CHANGE LANGUAGE

    เลือกแสดงตามหมวดหมู่

    โหลดหน้าใหม่
    คัดลอกลิงก์

    แชร์หน้านี้